เตรียมให้พร้อม เอกสารที่ต้องใช้ในการต่อภาษีรถยนต์

ในปัจจุบันต้องยอมรับเลยว่ารถยนต์ คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตในประเทศไทย เพราะรถยนต์คือตัวช่วยที่จะทำให้การดำเนินชีวิตในแต่ละวันเราง่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การเดินทางไปทำงาน เดินทางไปเที่ยว ออกต่างจังหวัด หรือแม้แต่การจ่ายตลาดซื้อของเข้าบ้าน

แต่การมี รถยนต์ในครอบครอง ก็พ่วงมาด้วยความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้น เพราะนอกจากตัวรถเองที่เราจะต้องคอยดูแลและตรวจเช็คสภาพรถยนต์ประจำปีแล้วนั้น ก็ยังมีกฎหมายและระเบียบต่างๆ ที่เราจะต้องเรียนรู้และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อที่จะไม่ต้องมานั่งเสียใจกับการเสียค่าปรับในภายหลัง

การต่อภาษีรถยนต์ ออนไลน์ และ การต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ ถือเป็นกฎหมายหลักๆ และเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของรถยนต์ทุกคนต้องทราบและดำเนินการต่ออายุเป็นประจำในทุกๆ ปี
ภาษีรถยนต์ คืออะไร ทำไมต้องต่อภาษีรถยนต์

ภาษีรถยนต์ คือ ภาษีอีกรูปแบบหนึ่ง ที่จะเรียกเก็บจากรถยนต์ โดยกรมสรรพสามิต เพราะ รถยนต์ถูกกำหนดให้เป็นสินค้าและบริการที่เกินความจำเป็นหรือเรียกสั้นๆ ง่ายๆ ว่า ‘สินค้าฟุ่มเฟือย’ อีกทั้งการใช้รถยนต์บนท้องถนนก็มีส่วนทำให้เกิดความเสื่อมสภาพของพื้นผิวถนน ซึ่งการที่เราจ่ายภาษีรถยนต์ไปในแต่ละปีนั้น หน่วยงานรัฐก็จะนำไปทะนุบำรุงผิวถนนเดิมให้ดีอยู่เสมอ พร้อมทั้งปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และก่อสร้างถนนเส้นทางใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางของประชาชนให้ดีมากยิ่งขึ้น

โดยเจ้าของรถยนต์จะต้องทำการ ต่อภาษีรถยนต์ หรือ ต่อทะเบียนรถยนต์ ใหม่ในทุกๆ ปี และสามารถต่อทะเบียนล่วงหน้าได้ก่อนทะเบียนหมดอายุไม่เกิน 3 เดือน หลังจากดำเนินการชำระภาษีเรียบร้อยแล้ว จะได้รับป้ายสี่เหลี่ยมที่ระบุวันหมดอายุของทะเบียนไว้อย่างชัดเจน เพื่อนำมาติดกระจกหน้ารถ ถือเป็นการแสดงสัญลักษณ์ว่ารถคันดังกล่าวได้ชำระภาษีตามที่กำหนดเรียบร้อยแล้วนั่นเอง

ดังนั้นหากใครก็ตามที่มีรถยนต์ไว้ในครอบครอง ไม่ว่าจะเป็น รถมอเตอร์ไซค์ รถเก๋ง รถกระบะ หรือแม้แต่ รถบรรทุก ก็จะต้องทำการ ‘ต่อภาษีรถยนต์’ ทุกปี ซึ่งถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก

เนื่องจากหากเจ้าของรถละเลยจนเกิดการต่อภาษีรถยนต์ที่ล่าช้าหรือเกินกำหนด จะถูกปรับร้อยละ 1 ของภาษีรถยนต์ต่อเดือนจนถึงวันที่ชำระ และถ้าหากไม่ได้ชำระภาษีติดต่อกันนานเป็นระยะเวลาเกิน 3 ปี รถยนต์คันนั้นก็จะถูกระงับและป้ายทะเบียนก็จะถูกยกเลิกทันที

ซึ่งถ้าหากเจ้าของรถต้องการใช้รถต่อ จะต้องดำเนินการยื่นเรื่องขอจดทะเบียนรถใหม่พร้อมคืนป้ายทะเบียนเดิม อีกทั้งยังต้องเสียค่าปรับในการต่อภาษีรถยนต์ย้อนหลังอีกด้วย